เมนู

ปายาสิกวรรคที่ 6


1. ปฐมอคาริยวิมาน


ว่าด้วยอคาริยวิมานที่ 1


พระมหาโมคคัลลานเถระ

ได้ถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า
[65] สวนจิตรลดาวันเป็นวนะประเสริฐสูงสุด
ของทวยเทพชั้นไตรทศ ส่องแสงสว่างไสว ฉันใด
วิมานของท่านนี้ก็มีอุปมาฉันนั้น ส่องแสงสว่างไสว
อยู่ในอากาศ ท่านบรรลุเทวฤทธิ์มีอานุภาพมาก
ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ท่านได้ทำบุญอะไรว่า เพราะ
บุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และ
ส่องแสงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรนั้น ถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้ว
ดีใจ ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมมีผลอย่างนี้ว่า

ในมนุษยโลก ข้าพเจ้าและภรรยา อยู่ครอง
เรือน เป็นดุจอู่ข้าวอู่น้ำ มีจิตเลื่อมใส ได้บริจาค
ข้าวและน้ำอย่างไพบูลโดยเคารพ เพราะบุญนั้น
ข้าพเจ้าจึงมีวรรณะเช่นนี้ ฯ ล ฯ และวรรณะของ
ข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

จบปฐมอคาริยวิมาน

ปายาสิกวรรคที่ 6


อรรถกถาปฐมอคาริยวิมาน


ปฐมอคาริยวิมาน มีคาถาว่า ยถา วนํ จิตฺตลตํ ปภาสติ
เป็นต้น. ปฐมอคาริยวิมานนั้น เกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร กรุงราชคฤห์
สมัยนั้น ตระกูล [ ครอบครัว ] หนึ่ง ในกรุงราชคฤห์ เป็นผู้เลื่อมใส
ทั้งสองฝ่าย พรั่งพร้อมด้วยศีลและจรรยา เป็นดุจบ่อน้ำของภิกษุและ
ภิกษุณีทั้งหลาย ทั้งสองภริยาสามีนั้นอุทิศพระรัตนตรัย ทำบุญจนตลอด
ชีวิต จุติจากภพนั้น แล้วไปบังเกิดในเหล่าภพชั้นดาวดึงส์ เทพทั้งสอง
นั้น เสวยทิพยสมบัติในดาวดึงส์นั้น. คำว่า ครั้งนั้น ท่านพระมหา-
โมคคัลลานะ
เป็นต้น พึงทราบ ตามนัยที่กล่าวมาแล้วในหนหลัง.
พระเถระถามว่า
จิตรลดาวัน อุทยานอันประเสริฐสูงสุด ของ
เหล่าเทพชั้นไตรทศ ย่อมส่องรัศมี ฉันใด วิมาน
ของท่านนี้ ก็อุปมาฉันนั้น ส่องรัศมีอยู่ในอากาศ.

ท่านบรรลุเทวฤทธิ์ มีอานุภาพมาก ครั้งเกิด
เป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไร เพราะบุญอะไร
ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของท่าน
จึงสว่างไสวไปทุกทิศ.